
เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด สำเนา 1
เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด 00-000-041-004
Information Technology for Smart Living
อาจารย์ผู้สอน: วุฒิพงษ์ ฮามวงศ์
ภาคการศึกษา: ภาคเรียนที่ 1/2567
จำนวนหน่วยกิต: 3(3-0-6)
ประเภทรายวิชา: หมวดวิชาศึกษาทั่วไป กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
กลุ่มเป้าหมาย:
ความรู้เบื้องต้น:
เวลาศึกษา : 90 ชั่วโมง เรียนตลอด 18 สัปดาห์
ทฤษฎี 3 ชั่วโมง ปฏิบัติ - ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และนักศึกษาต้องใช้เวลาศึกษาค้นคว้านอกเวลาเรียน 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
คำอธิบายรายวิชา :
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รูปแบบและบทบาทของการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต ผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย รายได้และการเติบโตของธุรกิจการสื่อสาร ความรับผิดชอบและการมีคุณธรรมต่อเพื่อนมนุษย์ในยุคการสื่อสารแบบไร้พรมแดนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างรู้เท่าทัน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับวิถีชีวิตอย่างชาญฉลาด และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
วิชานี้จะช่วยให้นักศึกษา
1. เข้าใจรูปแบบและบทบาทของการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต
2. ตระหนักถึงผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต่อการดำรงชีวิตและสังคมไทย
3. เข้าใจถึงโอกาสทางธุรกิจในยุคดิจิทัล
4. เรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบและมีคุณธรรม
5. พัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อวิถีชีวิตอย่างชาญฉลาด
6. เรียนรู้ที่จะเรียนรู้ต่อเนื่องในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ความสอดคล้องกับสาขาวิชาเทคนิคการสัตวแพทย์
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในงานด้านเทคนิคการสัตวแพทย์
เน้นทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่จำเป็นสำหรับนักสัตวแพทย์ เช่น การบันทึกข้อมูลสุขภาพสัตว์ การวิเคราะห์ข้อมูล การสื่อสารกับเจ้าของสัตว์ ฯลฯ
ความช่วยเหลือครูผู้สอน นอกเวลาเรียน
นักศึกษาควรมีโอกาสฝึกใช้ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศผ่านโครงการจริงหรือสถานการณ์สมมติ
ส่งเสริมให้นักศึกษานำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับงานจริง
หลังจากสำเร็จวิชานี้ ผู้เรียนจะสามารถ:
- เข้าใจรูปแบบและบทบาทของการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต
- อธิบายรูปแบบการสื่อสารออนไลน์ที่หลากหลาย เช่น อีเมล โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ ฯลฯ
- วิเคราะห์จุดประสงค์และผลกระทบของการสื่อสารออนไลน์
- ใช้เครื่องมือการสื่อสารออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม
- ตระหนักถึงผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต่อการดำรงชีวิตและสังคมไทย
- อธิบายผลกระทบด้านบวกและด้านลบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต่อสังคมไทย
- วิเคราะห์ปัญหาทางจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- นำเสนอแนวทางในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างมีความรับผิดชอบ
- เข้าใจถึงโอกาสทางธุรกิจในยุคดิจิทัล
- อธิบายแนวโน้มและโอกาสทางธุรกิจในยุคดิจิทัล
- ระบุช่องทางการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสร้างธุรกิจในสาขาเทคนิคการสัตวแพทย์
- พัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจสำหรับธุรกิจออนไลน์
- เรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบและมีคุณธรรม
- ปฏิบัติตามหลักจริยธรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
- ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมและความยุติธรรม
- ตระหนักถึงความเสี่ยงของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
- พัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อวิถีชีวิตอย่างชาญฉลาด
- ค้นหาและประเมินข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ
- ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสื่อสารและทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ
- จัดการข้อมูลส่วนตัวอย่างปลอดภัย
- แก้ปัญหาและตัดสินใจโดยใช้ข้อมูล
- เรียนรู้ที่จะเรียนรู้ต่อเนื่องในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
- พัฒนาทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง
- ติดตามความรู้และทักษะใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
- ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
เนื้อหา:
สัปดาห์ที่ 1-2: บทนำสู่เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- นิยามและความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- ประวัติความเป็นมาของเทคโนโลยีสารสนิเทศและการสื่อสาร
- โครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนิเทศและการสื่อสาร
- แนวโน้มและความท้าทายของเทคโนโลยีสารสนิเทศและการสื่อสาร
สัปดาห์ที่ 3-4: การสื่อสารออนไลน์
- รูปแบบการสื่อสารออนไลน์ที่หลากหลาย (อีเมล, โซเชียลมีเดีย, เว็บไซต์, ฯลฯ)
- เครื่องมือการสื่อสารออนไลน์
- จริยธรรมการสื่อสารออนไลน์
- กลยุทธ์การสื่อสารออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ
สัปดาห์ที่ 5-6: ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต่อสังคมไทย
- ผลกระทบด้านบวกและด้านลบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต่อสังคมไทย
- ปัญหาทางจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- ความรับผิดชอบของพลเมืองในยุคดิจิทัล
- อนาคตของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สัปดาห์ที่ 7-8: ธุรกิจในยุคดิจิทัล
- แนวโน้มและโอกาสทางธุรกิจในยุคดิจิทัล
- การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนิเทศเพื่อสร้างธุรกิจในสาขาเทคนิคการสัตวแพทย์
- กลยุทธ์ทางธุรกิจสำหรับธุรกิจออนไลน์
- การตลาดออนไลน์
สัปดาห์ที่ 9-10: การใช้เทคโนโลยีสารสนิเทศอย่างมีความรับผิดชอบและมีคุณธรรม
- หลักจริยธรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนิเทศ
- ความปลอดภัยทางไซเบอร์
- การใช้เทคโนโลยีสารสนิเทศเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมและความยุติธรรม
- ปัญหาการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์
สัปดาห์ที่ 11-12: ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนิเทศสำหรับวิถีชีวิตอย่างชาญฉลาด
- การค้นหาและประเมินข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ
- การใช้เทคโนโลยีสารสนิเทศเพื่อสื่อสารและทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ
- การจัดการข้อมูลส่วนตัวอย่างปลอดภัย
- แก้ปัญหาและตัดสินใจโดยใช้ข้อมูล
สัปดาห์ที่ 13-14: การเรียนรู้ต่อเนื่องในยุคดิจิทัล
- ทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง
- การติดตามความรู้และทักษะใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เทคโนโลยีสารสนเทศทางการเกษตร
ปัจจุบันผลกระทบของเทคโนโลยีมีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจของโลกมากขึ้น เนื่องจากมีการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology: IT) การพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจของไทยให้เจริญเติบโตได้รวดเร็ว การติดต่อกับต่างประเทศมีความสะดวกมากขึ้น สามารถส่งเสริมธุรกิจได้ดีมากขึ้น เกิดการสร้างผลงานและบริการใหม่ๆ เพื่อการแข่งขัน นอกจากนี้เทคโนโลยีสารสนเทศยังเป็นปัจจัยที่เป็นรากฐานและเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาการเกษตร เนื่องจากสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าในการผลิตและพัฒนาองค์ความรู้ ทั้งในด้านการผลิต การจัดการตลาด และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรได้หลากหลาย เช่น เป็นสื่อในการเผยแพรร่ความรู้ด้านการเกษตร อำนวยความสะดวกด้านข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร สืบค้นข้อมูลความรู้ด้านการเกษตรจากแหล่งความรู้ต่างๆ เป็นช่องทางการตลาดในระบบออนไลน์
นวัตกรรมเกษตร คือ การบูรณาการเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีชีวภาพ และเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัยต่างๆ เข้ากับเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก เพิ่มผลผลิต และเพิ่มคุณภาพของผลิตผล โดยใช้ข้อมูลของต้นพืช สภาพแวดล้อมของฟาร์ม และฐานข้อมูลด้านการเกษตร ที่เชื่อมโยงถึงกันเป็นเครือข่าย มาประมวลผลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยการตัดสินใจปรับปัจจัยการผลิตและการดูแลรักษาต้นพืชอย่างพอเหมาะ รวมถึงการจัดการผลิตผลเกษตรหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อคงคุณภาพเอาไว้ให้นานที่สุด
ความสำคัญ
ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตผลิตผลเกษตรที่สำคัญของโลก แต่ด้วยเกษตรกรรมแบบดั้งเดิมที่ให้ผลผลิตต่ำ ทำให้เกษตรกรของไทยยังคงมีสภาพความเป็นอยู่ที่ยากจน ขณะเดียวกันจำนวนประชากรที่สูงขึ้น ชุมชนเมืองที่ขยายตัว พื้นที่เพาะปลูกที่ลดลง สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากปัญหาโลกร้อน รวมทั้งความต้องการผลิตผลเกษตรเพื่อแปลงเป็นพลังงานที่สูงขึ้น ทำให้เกษตรกรรมแบบดั้งเดิมยิ่งไม่สามารถให้ผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการได้ และความพยายามในการเพิ่มผลผลิตด้วยวิธีเดิมๆ กลับทำให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศ จากการใช้ปัจจัยการผลิตอย่างฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น นอกจากนี้ผลิตผลเกษตรจำนวนมากยังคงสูญเสียไปตั้งแต่เก็บเกี่ยวตลอดเส้นทางไปสู่ผู้บริโภคหรือสู่กระบวนการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวที่ไม่ดีพอ
นวัตกรรมเกษตรจึงเป็นศาสตร์ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัย เกษตรกรรมแบบแม่นยำสูงหรือฟาร์มอัจฉริยะ เกษตรกรรมในเมือง และเกษตรกรรมแบบยั่งยืน รวมไปถึงการจัดการผลิตผลเกษตรแบบครบวงจร นวัตกรรมเกษตรจึงเป็นเกษตรกรรมยุคใหม่ที่จะมีบทบาทมากขึ้นและถือว่าเป็นเกษตรกรรมของอนาคตอย่างแท้จริง นวัตกรรมเกษตรจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหาของเกษตรกรไทยให้มีความเป็นอยู่ทีดีขึ้น และจะส่งเสริมให้ประเทศไทยยังคงเป็นฐานการผลิตสำคัญของผลิตผลเกษตรของโลกต่อไป

ชีวเคมีทางอาหาร (Food Biochemistry)
ชีวเคมีทางอาหาร (Food Biochemistry) เป็นรายวิชาใหม่ หมวดวิชาชีพเฉพาะ กลุ่มวิชาชีพพื้นฐาน หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการอาหาร ที่มีการปรับปรุงเนื้อหาจากรายวิชา ชีวเคมีทั่วไป (General Biochemistry) หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2558) ให้มีเนื้อหาเฉพาะที่เกี่ยวข้องและจำเป็นสำหรับสาขาวิชาเทคโนโลยีการอาหารยิ่งขึ้น
คำอธิบายรายวิชา :
ความหมายทางชีวเคมีทางอาหาร โครงสร้าง สมบัติและหน้าที่ของน้ำและสาร ชีวโมเลกุลต่างๆ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรท ลิปิด โปรตีน เอนไซม์และกรดนิวคลีอิก เมแทบอลิซึมของสารชีวโมเลกุล การประยุกต์ใช้ความรู้ทางชีวเคมีและเทคนิคพันธุวิศวกรรมทางอาหาร อาหารดัดแปลงพันธุกรรม หลักการและทักษะเชิงปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีชีวเคมี
จํานวนหน่วยกิต :
3(2-3-5) บรรยาย 2 ชั่วโมง ปฏิบัติ 3 ชั่วโมง ศึกษานอกเวลา 5 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์
รายวิชาที่ต้องเรียนมาก่อน (Pre-requisite) : ไม่มี
รายวิชาที่ต้องเรียนพร้อมกัน (Co-requisites) : ไม่มี